06-08 บรรดาอัยกา - บิดาอับราฮัม
6. พระเจ้าทรงเรียกอับราฮัม
อับราฮัมเป็นคนเลี้ยงแกะ พระเจ้าได้ตรัสกับเขาว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสแก่อับรามว่า "จงออกจากแผ่นดินของท่าน จากญาติพี่น้อง จากบ้านของบิดา ไปยังแผ่นดินที่เราจะชี้ให้ท่าน เราจะทำให้ท่านเป็นชนชาติใหญ่ จะอวยพรท่าน จะทำให้ท่านมีชื่อเสียงเลื่องลือ ท่านจะนำพระพรมาให้ผู้อื่น เราจะอวยพรผู้ที่อวยพรท่าน เราจะสาปแช่งผู้ที่สาปแช่งท่าน บรรดาเผ่าพันธุ์ทั้งสิ้นทั่วแผ่นดินจะได้รับพรเพราะท่าน"
อับราฮัมก็ไปตามพระดำรัสของพระเจ้า ขณะนั้นเขามีอายุได้ 70 ปี เขาได้พาซาราห์ภรรยาไปกับเขาด้วย และโลทหลานชายก็ไปกับเขา สัตว์ทั้งหมดที่เป็นของเขาและคนทั้งหมดที่ทำงานให้แก่เขาไปกับเขาด้วย อับราฮัมได้ไปยังแผ่นดินที่พระเจ้าได้ให้สัญญาแก่เขาและลูกหลานของเขา มันเป็นแผ่นดินที่ดีและอุดมสมบูรณ์ แผ่นดินแห่งคานาอัน อับราฮัมได้สร้างท่านบูชาถวายพระเจ้า (ปฐก 12)
7. พระเจ้าทรงทำพันธสัญญากับอับราฮัม
คืนหนึ่ง พระเจ้าได้ตรัสกับอับราฮัมว่า “อับราฮัมเอ๋ย อย่ากลัวเลย เราเป็นโล่ป้องกันท่าน บำเหน็จรางวัลของท่านจะยิ่งใหญ่มาก” แต่ อับราฮัมทูลว่า "ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า พระองค์จะประทานสิ่งใดแก่ข้าพเจ้าเล่า ถ้าข้าพเจ้ายังคงไม่มีบุตร พระองค์ทรงพาอับราฮัมออกไปข้างนอก แล้วตรัสว่า "จงมองดูท้องฟ้า นับจำนวนดวงดาวเถิดถ้าท่านนับได้" พระองค์ทรงเสริมว่า "ลูกหลานของท่านจะมีจำนวนมากมายเช่นนี้" อับราฮัมเชื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า และพระองค์ทรงนับว่าความเชื่อนี้เป็นความชอบธรรมสำหรับเขา
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสำแดงพระองค์แก่อับราฮัมที่หมู่ต้นโอ๊คของมัมเร ขณะนั้นเป็นเวลาแดดร้อนจัด อับราฮัมกำลังนั่งอยู่ที่ประตูกระโจม เขาเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นชายสามคนยืนอยู่ใกล้ตน ทันทีที่เห็น อับราฮัมก็วิ่งจากประตูกระโจมไปต้อนรับและกราบลงที่พื้นดิน เขาพูดว่า "เจ้านายของข้าพเจ้า ถ้าท่านโปรดปรานข้าพเจ้า โปรดอย่าผ่านผู้รับใช้ของท่านไปเลย ข้าพเจ้าจะให้เขาเอาน้ำมาล้างเท้าให้ท่าน เชิญท่านพักใต้ต้นไม้นี้เถิด ขอให้ข้าพเจ้าไปนำอาหารมาให้ท่านสักเล็กน้อย ท่านจะได้สดชื่น มีกำลังเดินทางต่อไป ท่านมาถึงบ้านข้าพเจ้าแล้ว ขอให้ข้าพเจ้ารับใช้ท่านเถิด" เขาทั้งสามจึงตอบว่า "จงทำตามที่ท่านพูดนั้นเถิด"
เขาเหล่านั้นถามว่า "นางซาราห์ ภรรยาของท่านอยู่ที่ไหน" อับราฮัมตอบว่า "นางอยู่ในกระโจม" คนหนึ่งจึงพูดว่า "ปีหน้า เราจะกลับมาหาท่านอีกอย่างแน่นอน นางซาราห์ภรรยาของท่านจะมีบุตรชายคนหนึ่ง" นางซาราห์ฟังอยู่ที่ประตูกระโจมเบื้องหลังอับราฮัม นางซาราห์ได้ยินจึงหัวเราะอยู่ในใจคิดว่า "ฉันแก่เกินกว่าที่จะมีบุตรแล้ว สามีของฉันก็แก่แล้ว แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสถามอับราฮัมว่า " มีสิ่งใดที่ยากเกินไปสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้าหรือ” (ปฐก 8 : 1 – 15)
8. ความเชื่อของอับราฮัม
พระเป็นเจ้าทรงรักษาพันธสัญญาของพระองค์ ซาราห์หญิงชราได้เป็นมารดา อับราฮัมชายชราได้เป็นบิดาและเขาได้ทายาทสืบตระกูล ซาราห์และอับราฮัมได้ตั้งชื่อบุตรชายตามชื่อที่พระเจ้าได้เลือกให้เขาว่า “อิสอัค” ซึ่งมีความหมายว่า “ขอพระเจ้าทรงยิ้ม” อิสอัคได้เจริญเติบโตเป็นเด็กหนุ่ม
พระเจ้าทรงต้องการลองใจอับราฮัม พระองค์ได้ตรัสกับเขาว่า "จงพาอิสอัคบุตรของท่าน บุตรคนเดียวที่ท่านรักไปยังดินแดนโมริยาห์ แล้วถวายเขาเป็นเครื่องเผาบูชาบนภูเขาที่เราจะบอกให้ท่านรู้" เช้า ตรู่วันรุ่งขึ้น อับราฮัมใส่อานบนหลังลา พาผู้รับใช้สองคนและอิสอัคบุตรชายไปด้วย เขาผ่าฟืนสำหรับใช้เผาบูชา แล้วออกเดินทางไปยังสถานที่ที่พระเจ้าทรงบอกให้รู้ ในวันที่สามอับราฮัมเงยหน้าแลเห็นที่นั้นแต่ไกล ที่นั่นอับราฮัมได้ละคนใช้ของเขาและลาไว้ และบอกกับคนใช้ว่า "จงอยู่ที่นี่เฝ้าลาไว้ด้วย ส่วนเรากับลูกจะไปนมัสการพระเจ้าที่โน่นแล้วจะกลับมา"
อิสอัคแบกฟืนขึ้นไปบนภูเขา อับราฮัมถือมีดและนำถ่านหินที่ลุกเป็นไฟไปด้วย อิสอัคได้พูดอับราฮัมว่า "พ่อครับ ดูซิที่นี่มีไฟและฟืน แต่ลูกแกะที่จะใช้เผาบูชาอยู่ที่ไหน" อับราฮัมตอบว่า "ลูกเอ๋ย พระเจ้าจะทรงจัดหาลูกแกะสำหรับเผาบูชาให้เอง" บนภูเขาอับราฮัมก่อแท่นบูชาขึ้น จัดเรียงฟืนไว้บนนั้น แล้วมัดอิสอัคนำมาวางไว้บนกองฟืนบนแท่นบูชา อับราฮัมยื่นมือออกไป เงื้อมีดจะฆ่าบุตร แต่ทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้าร้องเรียกจากสวรรค์ว่า "อับราฮัมเอ๋ย อับราฮัม" อับราฮัมตอบว่า ”ข้าพเจ้าอยู่นี่” ทูตสวรรค์กล่าวว่า ”อย่าลงมือฆ่าเด็กหรือทำร้ายเขาเลย บัดนี้ เรารู้แล้วว่า ท่านยำเกรงพระเจ้า และมิได้หวงบุตรคนเดียวของท่านไว้ ไม่ถวายแก่เรา” อับราฮัมเงยหน้าขึ้น แลเห็นแกะตัวผู้ตัวหนึ่ง เขาของมันติดอยู่ในพุ่มไม้ อับราฮัมจึงไปจับมันมาฆ่าเผาถวายบูชาแทนบุตรชายและเขาก็ได้กลับลงมาจากภูเขาพร้อมกับอิสอัค (ปฐก 22)