สงฆ์มหาไถ่ – นักแม่นธนู
โดย ราฟาแอล*
มีเรื่องเล่าเรื่องหนึ่ง กล่าวถึงกษัตริย์เมืองหนึ่งทรงโปรดการยิงธนูมาก พระองค์ทรงฝึกซ้อมการยิงธนูให้ตรงเป้าศูนย์กลาง (bull’s eye) ให้ได้หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ การฝึกของกษัตริย์องค์นี้ได้ผลคะแนนตรงเป้าดีขึ้นเป็นลำดับจาก 50% เป็น 60-70-80 และ 90% แต่หลังจากนั้น การจะเพิ่มคะแนนยิงเป้าให้ตรงศูนย์กลางเริ่มยากขึ้น โอกาสที่จะได้แต้ม 100 เปอร์เซ็นต์คงยากมาก
วันหนึ่ง กษัตริย์องค์นี้จึงทรงม้าไปทั่วอาณาจักรเพื่อแสวงหาอาจารย์ยิงธนูที่จะสามารถสอนเทคนิคการยิงธนูให้ตรงเป้าได้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ เดินทางหลายวันแต่ยังหาอาจารย์ไม่พบ จนกระทั่งวันหนึ่งพระองค์มาถึงหมู่บ้านชายแดนแห่งหนึ่ง พระองค์ทรงสังเกตเห็นดอกธนูปักตรงใจกลางเป้า (bull’s eye) มากมาย บนหน้าต่าง ประตู ข้างฝาบ้าน กำแพง ต้นไม้ พระองค์ดีใจมากที่จะได้พบอาจารย์ตามที่เดินทางแสวงหามานาน ชาวบ้านจึงพาไปพบชายหนุ่มคนหนึ่งผู้เป็นผู้ยิงธนูตรงใจกลางเป้าทุกดอก กษัตริย์ก็สงสัยและตรัสถามว่า ทำอย่างไร ชายหนุ่มคนนั้นก็กราบทูลว่า ง่ายมาก พูดพลางนำคันศรธนูขึ้นดอกธนู เล็งไปที่ลำต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ลูกธนูก็วิ่งปักกลางลำตัน แล้วชายหนุ่มคนนั้นก็นำกระป๋องสีขาวและแปลงไปวาดวงกลมสีขาวรอบปลายดอกธนู และรอบๆ จุดกลมนี้ก็วาดรูปวงกลมสามวงเหมือนเป้าศรธนูทั่วๆ ไป ลูกธนูของเขาจึงปรากฏอยู่ที่ใจกลางเป้าทุกดอก 100 เปอร์เซ็นต์เสมอทุกดอก
เมื่อผมไปที่วัดพระมหาไถ่ ซอยร่วมฤดี ผมเห็นลูกศรปักตรงใจกลางเป้าอยู่มากมาย ความหมายของการยิงลูกธนูได้ตรงศูนย์กลางเป้า หมายถึงการอภิบาลสัตบุรุษได้ตรงเป้าตรงกับความต้องการฝ่ายวิญญาณของสัตบุรุษ
การอภิบาลสัตบุรุษของคณะสงฆ์พระมหาไถ่มีมากมาย ใคร่ขอกล่าวถึงงานอภิบาลสัตบุรุษในเรื่องสำคัญๆ ดังนี้.-
1. พิธีบูชาขอบคุณพระเจ้า/ มิสซา และศีลศักดิ์สิทธิ์
วัดพระมหาไถ่เป็นวัดที่มีพิธีมิสซาจำนวนรอบมากที่สุด ทั้งในวันอาทิตย์ และวันธรรมดา ในวันอาทิตย์มี 7 รอบ ในวันธรรมดามี 3 รอบ ด้วยจำนวนรอบมิสซาที่มากกว่านี้จึงอำนวยความสะดวกให้แก่สัตบุรุษที่จะร่วมพิธีมิสซาได้ตามตารางเวลาของตนเองและของสมาชิกครอบครัว และสำหรับวันธรรมดากำหนดเวลายามสาย และเย็น ย่อมเป็นการเชื้อเชิญให้สัตบุรุษมาร่วมพิธีมิสซาได้มากขึ้น
ควบคู่กับพิธีมิสซา เป็นการรับศีลมหาสนิท เป็นที่น่าประทับใจที่ในมิสซาทุกรอบ จะเห็นจำนวนสัตบุรุษที่มามิสซาจะไปรับศีลมหาสนิทจำนวนมาก มากกว่าครึ่งของผู้มาร่วมพิธี นอกจากนี้ วัดพระมหาไถ่ยังเปิดโอกาสเรื่องศีลแก้บาปมาก โดยหลังมิสซาวันธรรมดา พระสงฆ์ผู้ประกอบพิธีมิสซาจะไปนั่งฟังแก้บาป และวันเสาร์เย็นและวันอาทิตย์พระสงฆ์มานั่งฟังแก้บาปก่อนมิสซาทุกรอบ เป้าศรธนูป้ายนี้ วัดพระมหาไถ่ยิงได้ตรงใจกลางเป้า ตรงเผ็งเลย
2. ความศรัทธาต่อแม่พระ/ พิธีนพวารแม่พระนิจจานุเคราะห์
ยอมรับว่า ผมรู้จักวัดพระมหาไถ่ก็เพราะพิธีนพวารแม่พระนิจจานุเคราะห์ และจากการร่วมพิธีนพวารเป็นประจำในตอนต้นๆ จึงเป็นการนำตัวเองและครอบครัวได้สนิทสนมกับคุณพ่อที่วัดพระมหาไถ่มากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างประเทศ และขณะนั้นพิธีนพวารแม่พระนิจจานุเคราะห์มีอยู่ที่วัดพระมหาไถ่แห่งเดียว ในเรื่องนี้ วัดพระมหาไถ่ก็สามารถยิงธนูได้ตรงใจกลางเป้าอีก ทั้งนี้เพราะคาทอลิกไทยเรามีความศรัทธาต่อพระแม่มารีอย่างลึกซึ้งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ในภายหลัง พิธีนพวารนี้จึงกระจายไปยังวัดต่างๆ ทั้งในกรุงเทพ และในสังฆมณฑลอื่นๆ ด้วย
3. การเทศน์มิชชั่น (การรณรงค์เทศน์ในหมู่บ้านคาทอลิก)
ยังจำประสบการณ์ที่ได้มีโอกาสรับฟังการเทศน์มิชชั่นในวัดแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ขณะนั้นถือว่าเป็นวิธีการที่ใหม่ที่ดีที่ได้ผล ผมเองไม่เคยเห็นใครทำมาก่อน และผลที่ได้ในหมู่บ้านนั้น มีมากมาย สัตบุรุษที่ทิ้งวัด ไม่มาวัด ทิ้งมิสซา ทิ้งศีลศักดิ์สิทธิ์ ได้กลับใจมาหาพระใหม่มากมาย ในการอภิบาลวิญญาณสัตบุรุษด้วยการรณรงค์นี้ ถือว่าเป็นการยิงธนูอย่างกล้าหาญมาก และตรงเป้า เพราะเป็นการปลุกให้ตื่นทั้งหมู่บ้าน และผมเชื่อว่าคงมีผลสืบเนื่องในเรื่องที่จะกล่าวในข้อต่อไป
4. คณะพระมหาไถ่ (สงฆ์ Redemptorist) มีเยาวชนเข้าสมัครเป็นสามเณรมาก
ถ้าไม่รวมสามเณรของสังฆมณฑลทั้งสิบของพระศาสนจักรประเทศไทย คณะพระมหาไถ่ มีเยาวชนมาสมัครเป็นสามเณรมากกว่าทุกคณะ นี่เป็นกระจกเงาของจิตตารมณ์ของคณะ ของความเสียสละ การอุทิศของคุณพ่อคณะพระมหาไถ่ทุกองค์ ตลอดจน กิจการ กิจกรรม การรณรงค์อภิบาล วิญญาณที่ได้มอบให้แก่พวกเราสัตบุรุษ ผลที่ได้เป็นการเชิญชวนให้เยาวชนเหล่านี้ตอบการเรียกขาน “กระแสเรียกพิเศษ” ที่พระเจ้ามอบให้แก่เยาวชนเหล่านี้ ณ ตรงนี้ ประเทศไทยเป็นเป้าใหญ่ที่คณะพระมหาไถ่ได้ยิงธนูตรงใจกลางประเทศ ความจริงข้อนี้ พระศาสนจักรประเทศไทยเป็นหนี้บุญคุณ แก่บรรดาสงฆ์ต่างประเทศผู้บุกเบิกนำคณะพระมหาไถ่มายังแผ่นดินไทยเมื่อห้าสิบกว่าปีมาแล้ว
5. การเตรียมชีวิตครอบครัวใหม่
วัดพระมหาไถ่ไม่ใช่เป็นวัดที่มีรอบมิสซามากที่สุดเท่านั้น แต่เป็นวัดที่ประกอบพิธีศีลสมรส (คู่แต่งงานเป็นคาทอลิกทั้งคู่) และพิธีแต่งงาน (ที่คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่เป็นคาทอลิก) มากที่สุดในกรุงเทพฯ ในแต่ละปี ที่มาของสถิตินี้ คงมาจากความเอาใจใส่ของคณะพระมหาไถ่ต่อการสร้างครอบครัวใหม่ ด้วยเหตุนี้ วัดพระมหาไถ่จึงได้จัดหลักสูตรการอบรมคู่สมรสมาเป็นเวลานาน โดยไม่คำนึงว่าผู้รับการอบรม จะเป็นสัตบุรุษของวัดหรือไม่ นี่ก็เป็นการยิงธนูตรงเป้าที่สำคัญอีกเป้าหนึ่งของคณะพระมหาไถ่
6. วัดพระมหาไถ่ในฐานะฐานกิจกรรมงานอภิบาลและสังคมสงเคราะห์
จากผู้บุกเบิกคณะพระมหาไถ่เพียงไม่กี่ท่าน คณะสงฆ์พระมหาไถ่ได้ขยายขอบข่ายงานแพร่ธรรม งานอภิบาลสัตบุรุษ งานสังคมสงเคราะห์ต่างๆ มากมาย กระจายไปยังพื้นที่อื่นๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และในต่างจังหวัด โดยมีวัดพระมหาไถ่เป็นฐานปฏิบัติงาน และฐานการสนับสนุนด้านทุน และการเงิน อาณาเขตขอบข่ายที่คณะพระมหาไถ่ได้รับมอบหมายจาก พระศาสนจักรส่วนกลางของประเทศมีดังนี้.-
ก. สังฆมณฑลอุดรธานี โดยมีสงฆ์คณะพระมหาไถ่ได้รับแต่งตั้งเป็นพระสังฆราชผู้ปกครอง โดยมีสงฆ์ผู้ปฏิบัติงานรับผิดชอบส่วนใหญ่เป็นสงฆ์ของคณะ (สงฆ์พื้นเมืองยังมีน้อยมาก)
ข. งานด้านสังคม ณ ศูนย์ Mercy ที่คลองเตย เป็นฐานงานด้านสังคมที่มีบทบาทมากต่อการยกฐานะความเป็นอยู่ของประชากรยากจนของกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้น
ค. โรงเรียนอาชีวะสำหรับผู้พิการ (ด้านแขน/ ขา) โดยให้การศึกษาด้าน คอมพิวเตอร์และสาขาวิชาชีพอื่นๆ นักศึกษาที่จบการศึกษาจากสถาบัน นี้เป็นที่ยอมรับขององค์กรหน่วยงานราชการ และบริษัท ห้าง ร้าน ต่างๆนอกจากนี้ นักศึกษาจากสถาบันการศึกษานี้ได้ทำชื่อเสียงให้แก่ประเทศ ไทยในการแข่งขัน para-Olympics โดยชนะเหรียญทอง – เงิน – ทองแดง มาแล้วหลายครั้ง นี่ก็อีกเช่นกัน เป็นการยิงลูกศรตรงใจกลางเป้าทุกดอก
7. การศึกษา/ โรงเรียน
ในการอภิบาลวิญญาณสัตบุรุษ คณะสงฆ์มหาไถ่ตระหนักว่า ความรู้เป็นพื้นฐานที่สำคัญในพันธกิจของคณะ จึงได้ครอบคลุมถึงการตั้งโรงเรียนของวัดด้วย (parochial school) โรงเรียนพระมหาไถ่ศึกษาจึงได้ถือกำเนิดขึ้นเพื่อสอนให้ “ลูกๆ” ได้มีความรู้ทางศาสตร์ต่างๆ และเพราะความรู้พื้นฐานในชีวิตนี้เองแหละที่จะนำให้บรรดาสัตบุรุษได้รู้ รู้จัก และรักพระเป็นเจ้าในที่สุด ขอบข่ายของการให้การศึกษานี้ ได้แผ่ขยายไปถึงครอบครัวชาวต่างประเทศที่มาทำงาน ในประเทศไทยด้วย โรงเรียนร่วมฤดีนิเทศศึกษา (Ruamrudee International School) จึงได้เกิดขึ้นและขณะนี้ถือว่าเป็นโรงเรียนนานาชาติที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของประเทศไทย นี่แสดงว่าคณะสงฆ์มหาไถ่สามารถยิงศรถูกใจกลางเป้าได้ทุกสัญชาติ เชื้อชาติ
8. กลุ่มชุมชนคริสตชนพื้นฐาน (Basic Christian Community)
วัดพระมหาไถ่มีคุณลักษณะเอกลักษณ์หนึ่งที่น่าสนใจ และน่าทึ่งมาก คือเป็นที่ชุมนุมของบรรดาสัตบุรุษเชื้อชาติสัญชาติต่างๆ สังคมของสัตบุรุษชาวต่างประเทศนี้ ยังความอบอุ่นแก่กันและกันและโดยเฉพาะผู้ที่มาใหม่ ผู้ที่เพิ่งมาพำนักในประเทศไทย ได้มีเพื่อนทันที กลุ่มชุมชนคริสตชนขั้นพื้นฐานจึงได้เกิดขึ้นเป็นกลุ่มๆ อาทิ ชาวอเมริกัน ชาวฟิลิปปินส์ ชาวเกาหลี และล่าสุดนี้มีชาวอาฟริกันมากขึ้น ทั้งหมดนี้สืบเนื่องมาจากการที่สงฆ์มหาไถ่เป็นผู้จุดประกายเริ่มขึ้นด้วยการที่เป็นผู้มาทักทายสนทนากับคริสตบุรุษหลังมิสซาทุกรอบ บางสัปดาห์ก็มีตลาดนัดเล็กๆ ที่เป็นจุดดึงดูดให้มีการพบปะ ทำความรู้จักคุ้นเคยระหว่างกันมากขึ้น ทราบมาว่าอีกไม่นาน จะมีมุมกาแฟในร้านขายหนังสือให้ด้วย ทั้งหมดนี้เป็นการส่งเสริมการเสวนา (dialogue) ระหว่างสัตบุรุษด้วยกันเองในพันธกิจนี้ สงฆ์มหาไถ่ได้สำรองลูกธนูไว้เยอะ จึงสามารถยิงธนูตรงใจกลางเป้ากับทุกคนได้โดยกระสุนไม่รู้จักหมด
9. สื่อมวลชนคาทอลิกจากวัดพระมหาไถ่/ คณะสงฆ์พระมหาไถ่
ผมจำได้ว่า วัดพระมหาไถ่เป็นวัดแรกในอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ที่เริ่มมีแผ่นพับประจำสัปดาห์ให้แก่สัตบุรุษทุกวันอาทิตย์ แผ่นพับเป็นกระดาษขนาด A4 พับกลางสี่หน้าในนั้นจะพิมพ์เนื้อหาของบทพระวรสารประจำวันอาทิตย์พร้อมกับคำอธิบายพระวาจา และมีประกาศต่างๆ เป็นต้นแบบให้แก่วัดอื่นๆ ได้ปฏิบัติตาม และนี่เป็นจุดเริ่มต้นของงานแพร่ธรรมโดยอาศัยสื่อมวลชนต่างๆ ในปัจจุบันคณะพระมหาไถ่มีสิ่งตีพิมพ์มากมาย มีวารสารอิสระทั้งรายเดือน และเร็วๆ นี้ได้มีฉบับรายปักษ์ มีหนังสือแปลมากมายล้วนเป็นเรื่องที่น่าสนใจทั้งนั้นสิ่งนี้ช่วยคาทอลิกไทยได้มาก เพราะพวกเราต่างมีจุดอ่อนด้านภาษาต่างประเทศ ขณะนี้ที่วัดพระมหาไถ่มีร้านค้าหนังสือ สิ่งตีพิมพ์เหล่านี้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่สัตบุรุษ นอกจากสิ่งตีพิมพ์ ศูนย์สื่อมวลชนมหาไถ่ยังมี website ต่างๆ สำหรับผู้สนใจที่มีอินเตอร์เนทเข้าไปหาข้อมูลศึกษาได้อย่างสะดวก เป็นการยิงธนูตรงเป้า ศูนย์กลางความรู้ และ cyberspace
10. กิจกรรมอภิบาลอื่นๆ
วัดพระมหาไถ่มิใช่คอยอภิบาลสัตบุรุษของตนเท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมฆราวาสแพร่ธรรม อื่นๆ อีกมากมาย อาทิเช่น คณะพลมารี คณะวินเซนต์เดอปอล คณะ Lady Mission Aids คณะกิจกรรมชีวิตครอบครัว (CFM + CFC) คณะพระจิตเจ้า ( Charismatics) คณะโฟโคลาเร คณะ AA และ อื่นๆ อีก กิจการ กิจกรรมทั้งหมดนี้ถือเป็นการอภิบาลชีวิตทั้งกาย และชีวิตวิญญาณของผู้รับการอภิบาล โดยไม่คำนึงว่า เขาจะเป็นคาทอลิกหรือไม่ก็ตาม.....และนี่ก็เป็นการยิงธนูไปยังสัตบุรุษลูกวัดทุกคน และแก่คนไทยทุกคนด้วยที่กล่าวมานี้ เป็นความประทับใจของ “ลูกวัด” คนหนึ่ง ที่ถูกลูกศรยิงปักกลางหัวใจมานานกว่า 30 ปี ความจริงยังมีอีกหลายข้อ แต่ไม่สามารถกล่าว ณ ที่นี้ได้หมด
ในโอกาสฉลองวัดพระมหาไถ่ครบรอบ 50 ปี ขอขอบพระคุณพระเป็นเจ้า ขอบพระคุณคณะพระมหาไถ่ ขอบพระคุณคุณพ่อทุกองค์ทั้งอดีตและปัจจุบันสำหรับการอภิบาลวิญญาณให้แก่ “ลูกวัด” ทุกคน และแก่คนไทยและสังคมไทย ขอพระเป็นเจ้าทรงประทานพระพรอันอุดมแด่พระสงฆ์ ภราดา สังฆานุกร สามเณร และเยาวชนของคณะทุกท่านตลอดไป
********************************
หมายเหตุ *ราฟาแอล - นามปากกาของคาทอลิกคนหนึ่งที่ล้างบาปตอนโตเมื่อสี่สิบสี่ปีมาแล้ว